กษัตริย์ซุกจง แห่งราชวงศ์โชซอน (ลีซุน)
พระนามเต็ม : สมเด็จพระราชา ซุกจง ฮยอนอึย ควางยุน เยซอง ยองรยอล ยูโม ยอนกุน ฮงอิน จุนด็อก แบชอน แฮบโด คเยฮยู ด๊กคยอง จองจุง ฮยอปกุก ซินอึย แดฮุน จางมุน ฮอนมู คยองมยอง วอนฮโย แห่งเกาหลี
พระราชประวัติ : พระเจ้าซุกจง เป็นกษัตริย์องค์ที่ 19 แห่งราชวงศ์โชซอน
ลี ซุน ประสูติเมื่อพ.ศ. 2204 เป็นพระโอรสของพระเจ้าฮยอนจงและมเหสีเมียงซอง ได้รับแต่งตั้งเป็นวังเซจา ในพ.ศ. 2210 จนพระเจ้าฮยอนจงสิ้นพระชนม์ในพ.ศ. 2217 วังเซจาจึงได้ขึ้นครองราชย์ เป็น พระเจ้าซุกจง พระเจ้าซุกจง ขึ้นครองราชย์ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างฝ่ายตะวันตกและฝ่ายใต้ที่คุกรุ่นในสมัยพระเจ้าฮยอนจง ในต้นรัชสมัยของ พระเจ้าซุกจง ขุนนางฝ่ายตะวันตกแตกเป็นสองพวก คือ ฝ่ายที่นิยมแนวความคิดขงจื้อประยุกต์ ที่เน้นการปฏิบัติจริง และไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์เดิม คือ ฝ่ายโซนน และฝ่ายที่นิยมหลักการดั้งเดิม เรียกว่า ฝ่ายโนนน
มเหสีอินฮยอนเป็นพระมเหสีองค์ที่สองของ พระเจ้าซุกจง ทรงไม่มีพระโอรสให้ พระเจ้าซุกจง แต่ พระสนมซุกกี ตระกูลจาง ประสูติพระโอรสในพ.ศ. 2231 พระเจ้าซุกจง จึงทรงจะแต่งตั้งพระโอรสองค์นี้เป็นรัชทายาท และแต่งตั้ง พระสนมซุกกีเป็นพระสนมฮีบิน
แต่ปัญหาก็เกิด เพราะพี่ชายของ สนมฮีบิน คือ จางฮีแจ เป็นขุนนางฝ่ายใต้ หากพระโอรสองค์นี้ได้เป็นรัชทายาท สนมจาง และฝ่ายใต้ย่อมมีอำนาจเพิ่มขึ้น แน่นอนวาฝ่ายโนนน (ฝ่ายตะวันตก) ไม่ยอม ซงชียอล จึงยื่นฎีกาถวาย พระเจ้าซุกจง ให้ยับยั้งการแต่งตั้งรัชทายาท ควรจะรอให้ พระมเหสีอินฮยอน ประสูติพระโอรสที่มีสิทธิชอบธรรมเสียก่อน แต่จะแต่งตั้งพระโอรสที่เกิดจากสนมเป็นรัชทายาท พระเจ้าซุกจง ทรงพระพิโรธมาก จับขุนนางฝ่ายโนนนมาสอบสวนและประหารชีวิต รวมทั้ง ซงชียอล และปลด มเหสีอินฮยอน
ตั้ง สนมจางฮีบิน เป็นมเหสี เรียกเหตุการณ์นี้ว่า การสลับขั้วทางการเมืองปีคีซา
พระราชประวัติ : พระเจ้าซุกจง เป็นกษัตริย์องค์ที่ 19 แห่งราชวงศ์โชซอน
ลี ซุน ประสูติเมื่อพ.ศ. 2204 เป็นพระโอรสของพระเจ้าฮยอนจงและมเหสีเมียงซอง ได้รับแต่งตั้งเป็นวังเซจา ในพ.ศ. 2210 จนพระเจ้าฮยอนจงสิ้นพระชนม์ในพ.ศ. 2217 วังเซจาจึงได้ขึ้นครองราชย์ เป็น พระเจ้าซุกจง พระเจ้าซุกจง ขึ้นครองราชย์ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างฝ่ายตะวันตกและฝ่ายใต้ที่คุกรุ่นในสมัยพระเจ้าฮยอนจง ในต้นรัชสมัยของ พระเจ้าซุกจง ขุนนางฝ่ายตะวันตกแตกเป็นสองพวก คือ ฝ่ายที่นิยมแนวความคิดขงจื้อประยุกต์ ที่เน้นการปฏิบัติจริง และไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์เดิม คือ ฝ่ายโซนน และฝ่ายที่นิยมหลักการดั้งเดิม เรียกว่า ฝ่ายโนนน
มเหสีอินฮยอน
(พระมเหสีอินฮยอน)
มเหสีอินฮยอนเป็นพระมเหสีองค์ที่สองของ พระเจ้าซุกจง ทรงไม่มีพระโอรสให้ พระเจ้าซุกจง แต่ พระสนมซุกกี ตระกูลจาง ประสูติพระโอรสในพ.ศ. 2231 พระเจ้าซุกจง จึงทรงจะแต่งตั้งพระโอรสองค์นี้เป็นรัชทายาท และแต่งตั้ง พระสนมซุกกีเป็นพระสนมฮีบิน

(พระสนมจางฮีบิน)
แต่ปัญหาก็เกิด เพราะพี่ชายของ สนมฮีบิน คือ จางฮีแจ เป็นขุนนางฝ่ายใต้ หากพระโอรสองค์นี้ได้เป็นรัชทายาท สนมจาง และฝ่ายใต้ย่อมมีอำนาจเพิ่มขึ้น แน่นอนวาฝ่ายโนนน (ฝ่ายตะวันตก) ไม่ยอม ซงชียอล จึงยื่นฎีกาถวาย พระเจ้าซุกจง ให้ยับยั้งการแต่งตั้งรัชทายาท ควรจะรอให้ พระมเหสีอินฮยอน ประสูติพระโอรสที่มีสิทธิชอบธรรมเสียก่อน แต่จะแต่งตั้งพระโอรสที่เกิดจากสนมเป็นรัชทายาท พระเจ้าซุกจง ทรงพระพิโรธมาก จับขุนนางฝ่ายโนนนมาสอบสวนและประหารชีวิต รวมทั้ง ซงชียอล และปลด มเหสีอินฮยอน

ตั้ง สนมจางฮีบิน เป็นมเหสี เรียกเหตุการณ์นี้ว่า การสลับขั้วทางการเมืองปีคีซา
ฝ่ายใต้ มีอำนาจเพิ่มมากขึ้น แต่ไม่นาน พระเจ้าซุกจง ก็ทรงเปลี่ยนพระทัย อาจเป็นพระทรงรู้สึกผิดต่อ มเหสีอินฮยอน จึงปลดมเหสีจาง ลงเป็น พระสนมฮีบิน และตั้ง มเหสีอินฮยอน กลับขึ้นเป็นมเหสี ฝ่ายโนนน กลับมามีอำนาจ เรียกว่า การสลับขั้วทางการเมืองปีคัปซอล
ในพ.ศ. 2223 ฝ่ายใต้ ล่มสลาย เหลือแต่ ฝ่ายตะวันตก จึงแบ่งเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายโนนน (พวกหัวเก่า) ประกอบด้วยขุนนางอาวุโส และ ฝ่ายโซนน (พวกหัวใหม่) มีขุนนางรุ่นใหม่ ในสมัย พระเจ้าซุกจง ฝ่ายโนนน และ ฝ่ายโซนน ขัดแย้งกันเรื่องการแต่งตั้งรัชทายาท ฝ่ายโนนน สนับสนุน พระเจ้ายองโจ(องค์ชายยอนอิง)

(องค์ชายยอนอิง)
แต่ ฝ่ายโซนน สนับสนุน พระเจ้าเคียงจง
ในพ.ศ. 2233 พระเจ้าเคียงจง ทรงได้เป็นรัชทายาท ทำให้ ฝ่ายโนนน เสื่อมอำนาจลงไป
(พระเจ้าเคียงจง)
ในพ.ศ. 2244 มเหสีอินฮยอน สิ้นพระชนม์ด้วยพระโรคที่แปลกประหลาด
ในปีนั้น พระเจ้าซุกจง เสด็จไปตำหนักของ สนมจางฮีบิน ก็พบสนมจาง อยู่กับพี่ชาย คือ จางฮีแจ และมี มูดัง(นางร่างทรง) กำลังทำพิธีสาปแช่ง พระเจ้าซุกจง ทรงพิโรธมาก สั่งประหาร สนมจางฮีบิน โดยการประทายาพิษแก่พระนาง และสั่งประหาร จางฮีแจ และ ขุนนางฝ่ายใต้ มากมาย
นับแต่นั้นมา พระเจ้าซุกจง ทรงออกพระราชบัญญัติ ห้ามแต่งตั้งสนมขึ้นเป็นพระมเหสีอีก
เมื่อเป็นดังนี้แล้ว ฝ่ายโนนน จึงกลับขึ้นมามีอำนาจ แต่ ฝ่ายโซนน ก็ฉวยโอกาส สนับสนุนวังเซจาที่เป็นพระโอรสของ พระเจ้าซุกจงกับ สนมจางฮีบิน เพื่อต้านทานอำนาจของ ฝ่ายโนนน
ในพ.ศ. 2237 พระสนมซุกบินแห่งตระกูลชอย ประสูติ องค์ชายยอนอิง ฝ่ายตะวันตก ไม่มีทางเลือกจึงต้องสนับสนุน องค์ชายยองอิงขึ้นมาเพื่อต้าน ฝ่ายโซนน
(พระสนมซุกบิน)
ในพ.ศ. 2263 พระเจ้าซุกจง สิ้นพระชนม์ วังเซจาขึ้นครองราชย์ เป็น พระเจ้าคยองจง ทำให้ฝ่ายโซนนขึ้นมามีอำนาจ

.
.
.
.
.
.
.
.
ขอขอบคุณ ข้อมูลดี ๆ ๆ ๆ (ที่ให้นำมาดัดแปลง) : หนังสือชะตากรรมราชวงศ์เกาหลี เขียนโดย อ.รวิโรจน์
ภาพประกอบจาก ซี่รี่เกาหลีเรื่อง ทงอี จอมนางคู่บัลลังค์ (ชอบมากเรื่องนี้นะ มันแบบดีๆๆๆ ดีกว่าละครไทยเยอะเลยละ ไม่น่าเชื่อเลยว่าจาก คนที่เป็นทาสจะได้เป็น พระสนมเอกของพระราชา ฝากติดตามด้วยนะคะ)
+
+
+
+
จัดทำโดย
นายวัชรากร กัณหา รหัสนิสิต 55010919589 รายวิชา 0026008 กลุ่ม 1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น