วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2557

^^^^ จักรพรรดินี ^^^^

...จักรพรรคดินี...

อันยองฮาเซโย



                            จากการได้ดูซี่รีย์เรื่อง Empress Ki รู้สึกว่าชอบเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่ง จากหญิงสาวสามัญชน นาม กีซึงนยัง ที่ต้องเผชิญเรื่องราวต่างมากมายจนได้ขึ้นเป็น จักรพรรดินี ฐานะมเหสีของพระราชา ฮุ่ยจง กษัตริย์พระองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์หยวน และเรื่องราวความล่มสลายของเผ่ามองโกลบนแผ่นดินจีน


              
                    จึงได้เริ่มศึกษาเกี่ยวกับประวัติขององค์ จักรพรรดินี พระองค์นี้ และได้นำมาเขียนบทความนี้ขึ้น (อาจจะมีความผิดพลาดบ้างอะไรบ้างนะ !!!)

                     สมเด็จพระจักรพรรดินีตระกูลคี หรือ สมเด็จพระจักรพรรดินีตระกูลฉี (ค.ศ. 1315 - ค.ศ. 1369) หรือ สมเด็จพระจักรพรรดินีโอลชีคูตูค เป็นพระจักรพรรดินีในพระจักรพรรดิหยวนฮุ่ยจง มีพื้นเพเดิมเป็นชาวเกาหลี ในสมัยอาณาจักรโครยอ เป็นสตรีที่ทรงอำนาจของจีนในสมัยราชวงศ์หยวนตอนปลาย


                             นางสาวคีเกิดที่เมืองแฮงจู (ปัจจุบันอยู่ทางตอนเหนือของกรุงโซล) ใน ค.ศ. 1315 เป็นบุตรสาวของ คีจาโอเป็นขุนนางฝ่ายทหารคนหนึ่งของอาณาจักรโครยอ ไม่ปรากฏว่า นางสาวคี นั้นมีชื่อเดิมเป็นภาษาเกาหลีว่าอย่างไร นางสาวคีมีพี่ชายชื่อว่า คี ชอล ใน ค.ศ. 1332 ทางฝ่ายราชวงศ์หยวนมีพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์คือ พระจักรพรรดิทอคอนเตมูร์ และในตอนนั้น นางสาวคี อายุ 17 ปี ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในบรรดาสาวดรุณีที่ราชสำนักโครยอต้องส่งมอบให้แก่ราชสำนักหยวนเป็นบรรณาการ นางสาวคี จึงจำต้องจากบ้านเกิดของตนเองไปยังกรุงต้าตู อันเป็นราชธานีของราชวงศ์หยวน หรือปักกิ่งในปัจจุบัน เพื่อเป็นนางในคอยปรนนิบัติรับใช้ พระจักรพรรดิโทคนเตมือร์ ด้วยความช่วยเหลือของ โคยงโบ ขันทีชาวเกาหลีในราชสำนักหยวน ทำให้นางในคีได้มีโอกาสทำหน้าที่ถวายเครื่องดื่มและน้ำชาแด่พระจักรพรรดิทอคอนเตมูร์ อย่างใกล้ชิดจนเป็นที่ต้องพระเนตรของ พระจักรพรรดิทอคอนเตมูร์



                     ใน ค.ศ. 1340 พระสนมตระกูลคี ได้ให้กำเนิดพระโอรสองค์แรกแด่ พระจักรพรรดิทอคอนเตมูร์ คือ เจ้าชายอายูร์ชีรีดาร์ พระสนมตระกูลคี จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็น พระจักรพรรดินีตระกูลคี หรือ พระจักรพรรดินีโอลชีคูตูค แม้ว่าในขณะนั้น พระจักรพรรดิทอคอนเตมูร์ จะทรงมีพระจักรพรรดินีอยู่แล้วก็ตามคือ พระจักรพรรดินีบายันคูตูค เท่ากับว่าในเวลานั้นราชวงศ์หยวนมีพระจักรพรรดินีในเวลาเดียวกันสองพระองค์ พระจักรพรรดินีดีทรงมีขันทีชาวเกาหลีคนสนิทคือ พัคบุลฮวา ที่คอบรับใช้พระจักรพรรดินีทำงานต่างๆ


                    ใน ค.ศ. 1353 พระจักรพรรดินีคี วางแผนร่วมกับ พัคบุลฮวา และขุนนางมองโกลชื่อว่า ฮามา ทำการโน้มน้าวให้ พระจักรพรรดิทอคอนเตมูร์ แต่งตั้ง เจ้าชายอายูร์ชีรีดาร์ พระโอรสของพระนางเป็น ไท่จื่อ หรือ เจ้าชายรัชทายาท แต่แผนการนี้ถูก อัครเสนาบดีทอคตอค คัดค้าน พระจักรพรรดินีคี จึงทรงกำจัด ทอคตอค ด้วยการสร้างข้อกล่าวทุจริตฉ้อฉลแก่ ทอคตา  เป็นเหตุให้ ทอคตอค ถูกปลดจากตำแหน่งและเนรเทศออกไป



                   ใน ค.ศ. 1354 และ เจ้าชายอายูร์ชีรีดาร์ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าชายรัชทายาทในปีเดียวกัน



                    ด้วยฐานะ พระจักรพรรดินีแห่งหยวน ทำให้ตระกูลคี ของพระนางเรืองอำนาจอยู่ในอาณาจักรโครยอบ้านเกิด พระเชษฐาคีชอล กลายเป็นผู้กุมอำนาจการปกครองที่แท้จริงและมีชื่อเสียงในด้านความทุจริตฉ้อฉล เป็นตัวแทนของมองโกลคอยกำกับดูแลให้ราชสำนักโครยอปฏิบัติตามนโยบายของหยวน แม้แต่พระมารดาของ จักรพรรดินีคี นั้นก็มีศักดิ์สูงกว่าพระเจ้าคงมินแห่งโครยอ จนกษัตริย์เกาหลีต้องทรงทำความเคารพมารดาของพระนาง พระเจ้าคงมิน ทรงตัดสินพระทัยนำทัพเข้ายึดอำนาจจาก ตระกูลคี สังหาร คีชอล รวมทั้งมารดาและสมาชิกครอบครัวคีไปจนหมดสิ้น



                ในค.ศ. 1356 สร้างความพิโรธแค้นให้แก่ จักรพรรดินีคี เป็นอย่างมากจึงส่งทัพบุกไปยังอาณาจักรโครยอเพื่อปลด พระเจ้าคงมิน จากบัลลังก์แล้วตั้ง เจ้าชายทัชเตมูร์ เป็นกษัตริย์เกาหลีพระองค์ใหม่ แต่ทัพมองโกลก็ได้ถูกทัพเกาหลีตีแตกพ่ายไป

 (พระเจ้าคงมินจากซี่รี่ย์เรื่อง Faith The Great Doctor)

                   ใน ค.ศ. 1364 เจ้าชายอายูร์ชีรีดาร์ เจริญชันษาขึ้นมาจึงคิดชิงราชบัลลังก์หยวนจาก พระจักรพรรดิทอคอนเตมูร์ พระบิดา แต่ทว่าแผนการล่วงรู้ไปถึง พอดลัดเตมูร์ ผู้เป็นพระบิดาของ พระจักรพรรดินีบายันคูตูค พอดลัดเตมูร์ จึงนำกองกำลังเข้ายึดเมืองต้าตูข่านบาลิก เป็นเหตุให้ เจ้าชายรัชทายาทต้องเสด็จหนีออกจากเมือง พอดลัดเตมูร์ จับองค์จักรพรรดินีคี ไว้เป็นตัวประกันและสังหาร ขันทีพัคบุลฮวา เมื่อทราบว่า เจ้าชายอายูร์ชีรีดาร์ ด้วยการสนับสนุนของ โคเกเตมูร์ หมายจะยกทัพเข้ามายึดเมืองคืน พอดลัดเตมูร์ จึงได้บังคับให้ พระจักรพรรดินีดีออกพระราชเสาวนีย์เรียกให้พระโอรสมาเข้าเฝ้าตัวเปล่า แต่ เจ้าชายอายูร์ชีรีดาร์ ก็มิได้ทำตาม ยกทัพเข้ายึดเมืองต้าตูคืนได้สำเร็จ พอดลัดเตมูร์ ถูกลอบสังหารโดยคนที่พระจักรพรรดิทรงส่งมา พระจักรพรรดินีคี และ เจ้าชายอายูร์ชีรีดาร์ ประสงค์จะให้ พระจักรพรรดิโทคนเตมือร์ สละราชบัลลังก์ ซึ่งพระจักรพรรดิไม่ทรงยอมแต่มอบตำแหน่งทางทหารให้แก่พระโอรสจนเป็นที่พอพระทัย



                    ใน ค.ศ. 1365 พระจักรพรรดินีบายันคูตูค สิ้นพระชนม์ พระจักรพรรดินีคี จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระจักรพรรดินีเพียงหนึ่งเดียวของราชวงศ์หยวน อีกเพียงสามปีต่อมา ค.ศ. 1368 เมืองต้าตูข่านบาลิกเสียให้แก่ พระจักรพรรดิหงหวู่ จูหยวนจางแห่งราชวงศ์หมิง พระจักรพรรดิตอคอนเตมูร์ พร้อมทั้ง พระจักรพรรดินีคี และ พระโอรสเจ้าชายอายูร์ชีรีดาร์ ทั้งสามพระองค์เสด็จหนีไปยังเมืองซ่างตู(ปัจจุบันอยู่ในเขตมองโกเลียใน) ต่อมา ค.ศ. 1370 เมืองซ่างตูเสียให้แก่ราชวงศ์หมิง ทั้งสามพระองค์จึงเสด็จหนีต่อไปยังเมืองอิงชาง ซึ่งพระจักรพรรดิทอคอนเตมูร์ ประชวรสวรรคตที่นั่น 



                   ในปีเดียวกันทัพราชวงศ์หมิงตามมาถึงเมืองอิงชาง  พระจักรพรรดินีคี พร้อมพระโอรสจึงเสด็จหนีต่อไปยังเมืองคาราโครุม หลังจากที่เสด็จหนีไปยังมองโกเลียแล้วไม่ปรากฏหลักฐานเกี่ยวกับ พระจักรพรรดินีคี อีกเลย นักประวัติศาสตร์คาดการณ์ว่าหลังจากที่ เจ้าชายอายูร์ชีรีดาร์ ทรงก่อตั้งราชวงศ์หยวนเหนือ ขึ้นครองราชย์เป็น พระจักรพรรดิหยวนเจ้าจง พระจักรพรรดินีคี น่าจะดำรงตำแหน่งเป็น ไทเฮา อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนจะสิ้นพระชนม์ไปโดยที่ไม่ทราบว่าเป็นปีใด





ตัวละครจาก Empress Ki


จักรพรรดินีคี



พระจักรพรรดิทอคอนเตมูร์



Dok Man ด๊กมัน



                                                                                    พัคบุลฮวา


                                                   ยอนชอล




                         ภาพสวย ๆ ๆ จากซี่รี่ย์ Empress Ki






















































                                                  










   ++ ขอบคุณข้อมูลดี ๆ ๆจาก ++

           Facebook : คน Love ซีรี่ย์เกาหลีย้อนยุคและประวัติศาสตร์

    +++ ภาพสวย ๆ ๆ จาก ซี่รี่ย์ เรื่อง Empress Ki +++


           ##ชื่อ-สกุล = วัชรากร กัณหา 55010919589##
                                                   

วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557

ชุดเกาหลี ^^ฮันบก^^

 

+_+ ชุดแต่งกาย ?     ฮันบก ? +_+


อันยองฮาเซโย




   จากคำเล่าขาน วัฒนธรรมเกาหลี
ถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมโดดเด่น และเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านศิลปะการแสดง อาหารเลื่องชื่อ และวัฒนธรรมการแต่งกายในแบบฉบับชุดประจำชาติ หนึ่งในจำนวนนั้นต้องยกให้…? เกาหลี?

             แม้เกาหลีจะเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานในเรื่องของการตกอยู่ภายใต้ภาวะสงคราม การตกเป็นอาณานิคม จนถึง วันประกาศอิสรภาพคือวันนี้ 15 สิงหาคม ของเมื่อ 60 ปีที่แล้ว พ.ศ. 2488 แต่ชาวเกาหลีก็ไม่เคยว่างเว้นที่จะเอาใจใส่ฟูมฟักรักษาวัฒนธรรมอันเก่าแก่และงดงามของตนให้คงอยู่เพื่อคนรุ่นหลังได้สัมผัส ดังจะเห็นได้จากความสวยงามน่าประทับใจของวัฒนธรรมประจำชาติอันหลากหลายที่ไม่มีชาติใดเหมือน

              โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของ ? วัฒนธรรม? ซึ่งเกาหลีไม่เพียงแต่จะมีชื่อเสียงทางด้าน ?กิมจิ? อาหารหมักดองที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบรับกับสภาพภูมิอากาศ ด้วยเทคนิคการถนอมอาหารสุดพิเศษเพื่อเก็บรักษาวิตามินในสูตรอาหารประเภทผักในรูปแบบของวัฒนธรรม การกินเท่านั้น 




                ความโดดเด่นของวัฒนธรรมการแต่งกายในชุดประจำชาติหลากสีสันก็ดูเหมือนจะได้รับความสนใจจากผู้พบเห็นมากมายไม่แพ้กันชุดแต่งกายตามประเพณีของชาวเกาหลี หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ? ฮันบก ? (Hanbok) จัดเป็นชุดประจำชาติของเกาหลีซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมานานนับพัน ๆ ปี ความสวยงาม และความสุภาพของวัฒนธรรมเกาหลีจะอยู่ในรูปภาพของผู้หญิงในชุดฮันบก ก่อนอิทธิพลของเครื่องแต่งกายแบบตะวันตกจะเข้ามาแทนที่ ฮันบกเคยถูกใช้เป็นชุดแต่งกายประจำวัน 





               โดย ผู้ชายสมัยก่อนจะสวมใส่ ? ชอกอรี  (เสื้อนอกแบบเกาหลี) และ พาจิ (กางเกงขายาว) 





            ขณะที่ ผู้หญิงจะสวมใส่ ชอกอรี กับ ชีมา (กระโปรง) แต่ปัจจุบันนี้ชาวเกาหลีมักจะใส่ ฮันบก เฉพาะโอกาสที่มีการเฉลิมฉลอง หรือวันสำคัญ ๆ เช่น วันแต่งงาน วันซอลลัล (วันขึ้นปีใหม่ทางจันทรคติ) หรือวันชูซก (วันขอบคุณพระเจ้า)





             ผ้าที่นำมาใช้ตัดชุดฮันบกมีอยู่มากมายหลายชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ผ้าป่าน 


ผ้าฝ้ายมัสลิน 


ผ้าไหม 


ผ้าแพร 


              โดยผู้สวมใส่จะเลือกใส่ชุดที่ตัดจากผ้าชนิดใดขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศ ฮันบกที่ใช้สำหรับแต่งกายในฤดูหนาวมักใช้ผ้าที่ทอจากฝ้าย 



             กางเกงขายาวมีสายรัดที่ข้อเท้าซึ่งช่วยในการเก็บความร้อนของร่างกาย 

            ในขณะที่ช่วงฤดูร้อนจะใช้ผ้าป่านลงแป้งแข็งหรือผ้ารามีซึ่งช่วยในการซึมซับ และการแผ่กระจายของความร้อนในร่างกาย


              สีผ้าที่ถูกเลือกมาใช้ตัดชุดฮันบกส่วนใหญ่จะเป็นสีขาว ซึ่่งสื่อถึงความสะอาด ความบริสุทธิ์ แต่หากต้องการได้ชุดที่ดูหรูขึ้นมาอีกนิดสำหรับสวมใส่ไปงานสำคัญ ๆ ก็จะใช้ผ้าสีแดง สีเหลือง สีน้ำเงิน และสีดำมาประกอบ การแต่งกายด้วยชุดฮันบกไม่ได้มีการกำหนดว่าจะต้องเป็นสีใด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้สวมใส่เป็นหลัก

              หญิงสาวเกาหลีตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่จะมีชุดฮันบกเป็นของตนเองสำหรับใช้ใส่ในวันสำคัญต่าง ๆ โดยเราจะสังเกตได้ว่า ชุดฮันบกของหญิงสาวจะถูกออกแบบมาให้เป็นกระโปรงพองยาว และเสื้อตัวสั้น ทั้งนี้ก็เพื่อพรางรูปร่าง และปกปิดส่วนเว้าส่วนโค้งของผู้สวมใส่ไม่ให้เป็นที่ดึงดูดสายตาของเพศตรงข้ามมากนั่นเอง



ชุด ^^ฮันบก^^ แบบต่าง ๆ




















ชุด ^^ฮันบก^^แบบต่าง ๆ ในซี่รี่ย์

 



















ชุดฮันบกตามลำดับขั้นของนางใน

พระพันปี


พระอัยยิกา


พระมเหสี


พระสนม


องค์หญิง


ซังกุงและนางกำนันในวัง








                 ที่เขียนเรื่องนี้ไม่ได้อะไรเลย ก็ชอบดูซี่รี่ย์เกาหลีเเนวประวัติศาสตร์ แบบมันสนุกดี เเละชุดของแต่ละตัวละลรนี่คือ แบบสวย ๆๆๆ ทั้งนั้น อย่างที่เอามาให้ดูนี่แหละ (อยากใส่ อะนะ)



++ขอบคุณข้อมูล ดี ๆ++
    
    Facebook : ลีมินโฮLee Minho ใครเป็นแฟนยกมือขึ้น

++ขอบคุณภาพสวย ๆ ๆ จาก ++
    
     ซี่รี่ย์เรื่อง Dong Yi , Jang ok Jung , คิมซูฮยอน 

     ##ชื่อ-สกุล = วัชรากร กัณหา 55010919589##